ภาษาเป็นเครื่องมือสื่อสารขั้นพื้นฐานของเจ้าตัวเล็ก เป็นกุญแจที่นำไปสู่การเรียนรู้เรื่องอื่นๆ อีกมากมาย Smart Tips ขอเสนอวิธีพัฒนาภาษาด้วย 4 องค์ประกอบ ฟัง พูด อ่าน เขียน ผ่านการเรียนรู้สนุกๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างได้เองที่บ้าน เพื่อปูพื้นฐานสู่การเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ต่อไปค่ะLet’s Listening - ให้เจ้าหนูฟังเสียงต่างๆ จากภายในและภายนอกบ้าน แล้วให้บอกที่มาของเสียงที่ได้ยินว่าคือเสียงอะไร ฝึกให้รู้จักฟังอย่างตั้งใจและฝึกการจับความของสิ่งที่ได้ฟัง - พูดคุยเพิ่มคลังคำศัพท์ วิธีง่ายแต่ได้ผลเยี่ยมค่ะ พยายามหาเรื่องต่างๆ มาพูดคุยกับเจ้าหนู ไม่ต้องเป็นวิชาการแสนยากหรอกนะคะ เริ่มจากเรื่องใกล้ตัวก่อนก็ได้ค่ะ - หาหนังสือที่น่าสนใจมาอ่านให้ฟัง ออกเสียงให้ชัดเจนและลีลาที่น่าตื่นเต้น เพิ่มสีสันด้วยอุปกรณ์ เช่น ตุ๊กตา ผ้า หรือเปิดเพลงประกอบ เสียงเพลงจะช่วยให้หนูรู้จักแยกความแตกต่างของระดับเสียง ช้า เร็ว สูง ต่ำ แถมยังได้ซึมซับคำศัพท์และรูปประโยคจากเนื้อเพลงไปในตัวค่ะสะสมคลังคำศัพท์ไว้มากมาย...ได้เวลานำมาร้อยเรียงเป็นคำพูดกันต่อค่ะ Let’s : Speaking - เปิดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างมื้ออาหาร ให้เจ้าหนูและสมาชิกทุกคนผลัดกันเล่าหรือพูดคุยเกี่ยวกับข่าวสารต่างๆ ในแต่ละวันค่ะ การเปิดโอกาสให้หนูได้พูดคุยเล่าประสบการณ์ จะทำให้คุณทราบพัฒนาการของลูกค่ะ - ร้อยเรียงคำพูดเป็นนิทาน กำหนดตัวละครและฉาก ช่วยกันผูกเป็นเรื่องราวตามจินตนาการ ฝึกจัดลำดับเรื่องราวเป็นขั้นตอน อาจใส่จังหวะและคำคล้องจองเป็นนิทานเพลงแสนสนุกค่ะ - เกมบอกหมวดหมู่ของสิ่งรอบตัว มีอะไรที่หนูรู้จักและเคยเห็นมาแล้วบ้าง เช่น เครื่องดนตรีที่หนูรู้จัก บนท้องฟ้ามีอะไร สัตว์ที่อยู่ในน้ำมีอะไรบ้าง แล้วให้หนูวาดภาพบันทึกเป็นสมุดคำศัพท์ส่วนตัวค่ะชวนพูดคุยอย่างสนุกสนานแล้ว ไปหยิบหนังสืออ่านกันต่อค่ะ Let’s : Reading - เริ่มจากเลือกหนังสือน่าอ่านมากระตุ้นแรงจูงใจ มองหาจากสิ่งที่เจ้าหนูสนใจ เช่น เรื่องสัตว์ ไดโนเสาร์ อวกาศ เลือกให้ตรงตามพัฒนาการแต่ละวัยด้วยนะคะ - หาเวลาประมาณวันละ 20 นาทีอ่านหนังสือไปด้วยกัน จากงานวิจัยในอเมริกาบอกว่าการอ่านหนังสือไปพร้อมกับลูก จะช่วยพัฒนาภาษาของลูกให้ดีขึ้น 10-20 % ยิ่งสำหรับเจ้าหนูเล็กๆ แล้วจับมานั่งตัก ใช้มือชี้ไล่ไปตามคำที่อ่าน เขาจะจดจำคำศัพท์ได้มากทีเดียวค่ะ - อ่านซ้ำย้ำประสบการณ์ เด็กๆ ชอบที่จะเดาเรื่องราวในหนังสือได้ค่ะ และจะเรียนรู้คำในหนังสือมากขึ้นโดยเดาความหมายจากเนื้อความและสิ่งที่เห็นซ้ำๆ นี่อาจเป็นหนังสือเล่มแรกที่เขาสามารถอ่านเองจนจบเรื่องก็ได้ - ต่อยอดจากการอ่านด้วยการทำกิจกรรม เช่น ทำงานศิลปะจากเรื่องที่อ่าน ร้องเพลง หรือพาไปหาข้อมูลเพิ่มเติมแหล่งความรู้อย่างพิพิธภัณฑ์หรือสวนสัตว์อ่านจบแล้ว...เก็บหนังสือเข้าชั้น แล้วไปหากระดาษมาขีดเขียนกันต่อเลยค่ะ Let’s : Writing - ก่อนเขียนต้องรู้จักพยัญชนะหรือตัวเลขก่อนค่ะ ว่าแต่ละตัวมีรูปร่างอย่างไร หาสมุดภาพคำศัพท์ที่มีตัวอักษรและรูปภาพช่วยให้จำง่ายขึ้น เกมจับคู่-ลากเส้นระหว่างตัวอักษรกับภาพ หรือเกมหาอักษรจากกองพยัญชนะช่วยได้ค่ะ - ทำงานศิลป์อุ่นเครื่องเรื่องเขียน ใช้พู่กันหรือสีชอล์กอันใหญ่ฝึกควบคุมทิศทางการเขียน เสร็จแล้วอย่าลืมให้เจ้าหนูเขียนชื่อหรือทำสัญลักษณ์ว่าเป็นเจ้าของผลงานด้วยนะคะ - ลองให้เขาฝึกเขียนรูปแบบอื่น เช่น เขียนบันทึก ตารางกิจวัตรประจำวัน เขียนการ์ดอวยพรหรือจดหมายส่งให้เพื่อนๆ ที่ต้องมีทั้งชื่อผู้รับและผู้ส่ง คำขึ้นต้นและคำลงท้ายค่ะ Parents can do - จัดมุมในบ้านให้เอื้อต่อการเรียนรู้เรื่องภาษา ทั้งนิทาน หนังสือสมุดภาพ บัตรคำ เกมต่างๆ เช่น เกมเศรษฐี เกมงู Cross word และอุปกรณ์ศิลปะทั้งหลาย อย่าลืมโชว์ผลงานการเรียนรู้เรื่องภาษาให้เจ้าหนูได้เห็นพัฒนาการของตัวเองด้วยค่ะ ทั้งนิทาน งานศิลปะ การ์ดอวยพร
- Language is all around เรื่องสนุกของภาษาไม่ได้มีอยู่แค่ในหนังสือค่ะ ทั้งจดหมาย ป้ายโฆษณา ฉลากสินค้า ป้ายตามที่ต่างๆ เช่น สวนสัตว์ วัด ห้างสรรพสินค้า สามารถพาเจ้าหนูไปสัมผัสกับตัวอักษรได้เช่นกัน เพียงแค่คุณหมั่นชี้ชวนให้ดู อ่าน และอธิบายความหมายให้ฟัง เจ้าหนูก็จะจดจำและเข้าใจได้อย่างรวดเร็วค่ะ
สุดท้าย...อย่าลืมหยอดกำลังใจหรือคำชมแถมท้ายทุกครั้งที่เจ้าหนูทำสำเร็จด้วยนะคะ เพราะจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เขาพัฒนาเรื่องภาษาไปได้อีกไกลเลยค่ะ
- Language is all around เรื่องสนุกของภาษาไม่ได้มีอยู่แค่ในหนังสือค่ะ ทั้งจดหมาย ป้ายโฆษณา ฉลากสินค้า ป้ายตามที่ต่างๆ เช่น สวนสัตว์ วัด ห้างสรรพสินค้า สามารถพาเจ้าหนูไปสัมผัสกับตัวอักษรได้เช่นกัน เพียงแค่คุณหมั่นชี้ชวนให้ดู อ่าน และอธิบายความหมายให้ฟัง เจ้าหนูก็จะจดจำและเข้าใจได้อย่างรวดเร็วค่ะ
สุดท้าย...อย่าลืมหยอดกำลังใจหรือคำชมแถมท้ายทุกครั้งที่เจ้าหนูทำสำเร็จด้วยนะคะ เพราะจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เขาพัฒนาเรื่องภาษาไปได้อีกไกลเลยค่ะ