เพลินภาษา....พัฒนาสนุกด้วยการฟัง พูด อ่าน เขียน


ภาษาเป็นเครื่องมือสื่อสารขั้นพื้นฐานของเจ้าตัวเล็ก เป็นกุญแจที่นำไปสู่การเรียนรู้เรื่องอื่นๆ อีกมากมาย Smart Tips ขอเสนอวิธีพัฒนาภาษาด้วย 4 องค์ประกอบ ฟัง พูด อ่าน เขียน ผ่านการเรียนรู้สนุกๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างได้เองที่บ้าน เพื่อปูพื้นฐานสู่การเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ต่อไปค่ะLet’s Listening - ให้เจ้าหนูฟังเสียงต่างๆ จากภายในและภายนอกบ้าน แล้วให้บอกที่มาของเสียงที่ได้ยินว่าคือเสียงอะไร ฝึกให้รู้จักฟังอย่างตั้งใจและฝึกการจับความของสิ่งที่ได้ฟัง - พูดคุยเพิ่มคลังคำศัพท์ วิธีง่ายแต่ได้ผลเยี่ยมค่ะ พยายามหาเรื่องต่างๆ มาพูดคุยกับเจ้าหนู ไม่ต้องเป็นวิชาการแสนยากหรอกนะคะ เริ่มจากเรื่องใกล้ตัวก่อนก็ได้ค่ะ - หาหนังสือที่น่าสนใจมาอ่านให้ฟัง ออกเสียงให้ชัดเจนและลีลาที่น่าตื่นเต้น เพิ่มสีสันด้วยอุปกรณ์ เช่น ตุ๊กตา ผ้า หรือเปิดเพลงประกอบ เสียงเพลงจะช่วยให้หนูรู้จักแยกความแตกต่างของระดับเสียง ช้า เร็ว สูง ต่ำ แถมยังได้ซึมซับคำศัพท์และรูปประโยคจากเนื้อเพลงไปในตัวค่ะสะสมคลังคำศัพท์ไว้มากมาย...ได้เวลานำมาร้อยเรียงเป็นคำพูดกันต่อค่ะ Let’s : Speaking - เปิดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างมื้ออาหาร ให้เจ้าหนูและสมาชิกทุกคนผลัดกันเล่าหรือพูดคุยเกี่ยวกับข่าวสารต่างๆ ในแต่ละวันค่ะ การเปิดโอกาสให้หนูได้พูดคุยเล่าประสบการณ์ จะทำให้คุณทราบพัฒนาการของลูกค่ะ - ร้อยเรียงคำพูดเป็นนิทาน กำหนดตัวละครและฉาก ช่วยกันผูกเป็นเรื่องราวตามจินตนาการ ฝึกจัดลำดับเรื่องราวเป็นขั้นตอน อาจใส่จังหวะและคำคล้องจองเป็นนิทานเพลงแสนสนุกค่ะ - เกมบอกหมวดหมู่ของสิ่งรอบตัว มีอะไรที่หนูรู้จักและเคยเห็นมาแล้วบ้าง เช่น เครื่องดนตรีที่หนูรู้จัก บนท้องฟ้ามีอะไร สัตว์ที่อยู่ในน้ำมีอะไรบ้าง แล้วให้หนูวาดภาพบันทึกเป็นสมุดคำศัพท์ส่วนตัวค่ะชวนพูดคุยอย่างสนุกสนานแล้ว ไปหยิบหนังสืออ่านกันต่อค่ะ Let’s : Reading - เริ่มจากเลือกหนังสือน่าอ่านมากระตุ้นแรงจูงใจ มองหาจากสิ่งที่เจ้าหนูสนใจ เช่น เรื่องสัตว์ ไดโนเสาร์ อวกาศ เลือกให้ตรงตามพัฒนาการแต่ละวัยด้วยนะคะ - หาเวลาประมาณวันละ 20 นาทีอ่านหนังสือไปด้วยกัน จากงานวิจัยในอเมริกาบอกว่าการอ่านหนังสือไปพร้อมกับลูก จะช่วยพัฒนาภาษาของลูกให้ดีขึ้น 10-20 % ยิ่งสำหรับเจ้าหนูเล็กๆ แล้วจับมานั่งตัก ใช้มือชี้ไล่ไปตามคำที่อ่าน เขาจะจดจำคำศัพท์ได้มากทีเดียวค่ะ - อ่านซ้ำย้ำประสบการณ์ เด็กๆ ชอบที่จะเดาเรื่องราวในหนังสือได้ค่ะ และจะเรียนรู้คำในหนังสือมากขึ้นโดยเดาความหมายจากเนื้อความและสิ่งที่เห็นซ้ำๆ นี่อาจเป็นหนังสือเล่มแรกที่เขาสามารถอ่านเองจนจบเรื่องก็ได้ - ต่อยอดจากการอ่านด้วยการทำกิจกรรม เช่น ทำงานศิลปะจากเรื่องที่อ่าน ร้องเพลง หรือพาไปหาข้อมูลเพิ่มเติมแหล่งความรู้อย่างพิพิธภัณฑ์หรือสวนสัตว์อ่านจบแล้ว...เก็บหนังสือเข้าชั้น แล้วไปหากระดาษมาขีดเขียนกันต่อเลยค่ะ Let’s : Writing - ก่อนเขียนต้องรู้จักพยัญชนะหรือตัวเลขก่อนค่ะ ว่าแต่ละตัวมีรูปร่างอย่างไร หาสมุดภาพคำศัพท์ที่มีตัวอักษรและรูปภาพช่วยให้จำง่ายขึ้น เกมจับคู่-ลากเส้นระหว่างตัวอักษรกับภาพ หรือเกมหาอักษรจากกองพยัญชนะช่วยได้ค่ะ - ทำงานศิลป์อุ่นเครื่องเรื่องเขียน ใช้พู่กันหรือสีชอล์กอันใหญ่ฝึกควบคุมทิศทางการเขียน เสร็จแล้วอย่าลืมให้เจ้าหนูเขียนชื่อหรือทำสัญลักษณ์ว่าเป็นเจ้าของผลงานด้วยนะคะ - ลองให้เขาฝึกเขียนรูปแบบอื่น เช่น เขียนบันทึก ตารางกิจวัตรประจำวัน เขียนการ์ดอวยพรหรือจดหมายส่งให้เพื่อนๆ ที่ต้องมีทั้งชื่อผู้รับและผู้ส่ง คำขึ้นต้นและคำลงท้ายค่ะ Parents can do - จัดมุมในบ้านให้เอื้อต่อการเรียนรู้เรื่องภาษา ทั้งนิทาน หนังสือสมุดภาพ บัตรคำ เกมต่างๆ เช่น เกมเศรษฐี เกมงู Cross word และอุปกรณ์ศิลปะทั้งหลาย อย่าลืมโชว์ผลงานการเรียนรู้เรื่องภาษาให้เจ้าหนูได้เห็นพัฒนาการของตัวเองด้วยค่ะ ทั้งนิทาน งานศิลปะ การ์ดอวยพร
- Language is all around เรื่องสนุกของภาษาไม่ได้มีอยู่แค่ในหนังสือค่ะ ทั้งจดหมาย ป้ายโฆษณา ฉลากสินค้า ป้ายตามที่ต่างๆ เช่น สวนสัตว์ วัด ห้างสรรพสินค้า สามารถพาเจ้าหนูไปสัมผัสกับตัวอักษรได้เช่นกัน เพียงแค่คุณหมั่นชี้ชวนให้ดู อ่าน และอธิบายความหมายให้ฟัง เจ้าหนูก็จะจดจำและเข้าใจได้อย่างรวดเร็วค่ะ
สุดท้าย...อย่าลืมหยอดกำลังใจหรือคำชมแถมท้ายทุกครั้งที่เจ้าหนูทำสำเร็จด้วยนะคะ เพราะจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เขาพัฒนาเรื่องภาษาไปได้อีกไกลเลยค่ะ

กิจกรรม"สัตว์อะไรออกลูกเป็นไข่"

เตรียมตน
- ฝึกการร้องเพลงที่ตนเองได้เตรียมไว้
- เตรียมสุขภาพด้านร่างกายและจิตใจ( จัดสภาพอารมณ์)
- เข้าใจในเนื้อหาของเพลง
- ทดลอง ฝึกปฏบัติให้คล่องแคล่ว
- เตรียมคำพูดที่กระตุ้นให้เด็กอยากรู้อยากเห็น

เตรียมสื่อ
- เนื้อเพลง "แม่ไก่ออกไข่ "
- กระดาษชาร์ต
- ปากกาเคมี
- กระดาษ A4
- ดินสอสี
- ดินสอ
- ภาชนะที่ใส่ดินสอสี ดินสอ
- เทปใส

เตรียมกิจกรรม
- เชิญชวนให้เด็กสนใจในกิจกรรม โดยใช้คำพูดกระตุ้นเด็ก
- นำสื่อเพลงที่เตรียมไว้มาให้เด็กๆฝึกร้อง จนเกดความชำนาญ เกิดความสนุกสนาน
- พอจบจากเพลง ก็มาที่หัวข้อสนธนา กับเด็กในหัวข้อ " สัตว์อะไรออกลูกเป็นไข่ "
- ให้เด็กๆช่วยกันแสดงความคิดเห็น เพื่อให้เด็กเกิดความกล้าแสดงออก
- จากนั้นก็แจกกระดาษ A4 ให้กับเด็ก ๆวาดรูป "สัตว์อะไรออกลูกเป็นไข่ "
- เมื่อเด็กวาดรูประบายสีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้เด็กๆแต่ละคนบรรยายใต้ภาพ
- ครูคอยช่วยเหลือ กระตุ้นให้เด็กคิด เด็กเกิดจินตนาการ

ทำงาน กิจกรรมกับน้อง

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้ไปจัดกิจกรรมกับน้องๆที่หมู่บ้านแฟลตตำรวจทุ่งสองห้องค่ะ รู้สึกตื่นเต้นมากเลยค่ะที่ได้ไปจัดกิจกรรมให้กับน้องเป็นครั้งแรกของตนเองเลยคะ กิจกรรมมีชื่อว่า "สัตว์อะไรออกลูกเป็นไข่"

เกมสนุกๆ

ปัญหาสนุก กระตุก IQ
ปีพิเศษ
คำถาม - เขียนตัวเลขแสดงปีของปีหนึ่งลงบนกระดาษ เมื่อกลับหัวกลับหางลง ก็ยังสามารถอ่านได้เป็นตัวเลขจำนวนเดียวกัน รู้รึเปล่า...ปีนั้นคือปีอะไรคำตอบ - 1961
กระโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์
คำถาม - เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งอยู่สูงจากพื้นดิน 50 เมตร ชายคนหนึ่งกระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ลำนี้โดยไม่ได้ใช้ร่มชูชีพ แต่หลังจากกระโดดเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย รู้รู้เปล่า...ว่าทำไมคำตอบ - เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ จอดอยู่บนดาดฟ้าของตึกสูง 50 เมตร ดังนั้นชายคนนี้กระโดดลงมาอยู่บนดาดฟ้านั่นเอง
หยิบบอลสีดำ
คำถาม - ท่อยางบางใส บรรจุบอลสีขาว 6 ลูก และสีดำ 1 ลูก บอลเคลื่อนที่ไปมาในท่อยางได้ บอลสีดำอยู่ตรงกลางระหว่างบอลสีขาว ข้างละ 3 ลูก ู้รึเปล่า...ว่าเราจะหยิบบอลสีดำออกมาได้อย่างไรโดยไม่ต้องตัดท่อยางและไม่หยิบเอาบอลสีขาวออกมาก่อนคำตอบ - งอท่อยางให้เป็นวงกลม เอาปลายท่อมาต่อกัน แล้วเคลื่อนลูกบอลสีขาว 3 ลูกจากปลายข้างหนึ่งไปอีกข้าง แล้วแยกปลายท่อออกจากกัน จากนั้นหยิบลูกบอลสีดำออกมา
ตัวเลขปริศนา
คำถาม - จะมีเลข 3 จำนวน เมื่อบวกกัน หรือคูณกัน ผลลัพธ์ที่ได้จะมีค่าเท่ากัน รู้รึเปล่า...ตัวเลข 3 จำนวนนั้นมีอะไรบ้างคำตอบ - 1, 2, 3 1+ 2 + 3 = 6 1 x 2 x 3 = 6
เรือลอดใต้สะพาน
คำถาม - ชายคนหนึ่งขนสินค้าลงเรือแล่นผ่านลำคลอง แต่เนื่องจากสินค้ามากเกินไป ทำให้ไม่สามารถลอดใต้สะพานได้ รู้รึเปล่า...ทำอย่างไรให้เรือลอดผ่านใต้สะพานได้คำตอบ - ใส่วัตถุหนัก ๆ เพิ่มลงในเรือ ให้เรือต่ำลงทำให้สินค้าบนเรือต่ำกว่าความสูงใต้สะพาน จึงผ่านไปได้
คนตาบอดแบ่งถุงเท้า
คำถาม - คนตาบอดสองคน แต่ละคนต่างก็ซื้อถุงเท้าสีดำ 2 คู่ สีขาว 2 คู่ รวมทั้งหมด 8 คู่ โดยที่ถุงเท้าทั้ง 8 คู่นี้ใช้วัสดุเหมือนกัน ขนาดเท่ากัน และแต่ละคู่ถูกยึดติดกันด้วยป้ายยี่ห้อเดียวกัน ทั้ง 2 คนไม่ทันระวัง ทำให้ถุงเท้าทั้ง 8 คู่นั้นปนกัน รู้รึเปล่า...พวกเขาจะหยิบถุงเท้าขาวและดำ อย่างละ 2 คู่ได้อย่างไรคำตอบ - เนื่องจากถุงเท้าแต่ละคู่ยึดติดกัน ดังนั้นให้แต่ละคนแยกแต่ละคู่แบ่งกันคนละข้าง จนครบ 8 คู่ แต่ละคนก็จะได้ถุงเท้าขาวและดำสีละ 2 คู่พอดี
เติมตัวเลข
คำถาม - จงใช้เลข 1 ถึง 7 แยกเติมลงในตำแหน่งที่เหมาะสมข้างล่างให้สมบูรณ์.. + . .= 89 - .. = .....x .. = ...0คำตอบ 7 + 1 = 89 - 6 = 35 x 4 = 2 0
รถบรรทุกข้ามสะพาน
คำถาม - รถบรรทุกคันหนึ่งหนัก 10 ตัน ต้องผ่านสะพานซึ่งรับน้ำหนักได้เพียง 8 ตัน แต่ปรากฏว่าสามารถขับผ่านไปได้ด้วยดี รู้รึเปล่า...เพราะอะไรสะพานถึงไม่พังคำตอบ - แสดงว่าความยาวของสะพานสั้นกว่าความยาวของรถบรรทุก ทำให้น้ำหนักของรถบรรทุกกระจาย ไม่ได้หนักอยู่รวมกันจุดใดจุดหนึ่ง
ทาง 3 แยก
คำถาม - คุณโหน่งมาจากทาง A จะไปยังทาง B พอดีมาถึงทาง 3 แยก ปรากฏว่าป้ายบอกทางได้หักล้มลงมา เขาไม่รู้ว่าจะไปทางไหนจึงจะถูก และขณะนั้นไม่มีคนอยู่บริเวณนั้นให้ถาม รู้รึเปล่า...เขาควรทำอย่างไรคำตอบ - คุณโหน่งหยิบป้ายบอกทางตั้งขึ้น แล้วหันป้ายที่ชี้ทาง A ไปยังทิศที่ตนเองเดินมา ก็จะรู้ทางไปยังทิศทาง B ได้อย่างง่ายดาย
ส่วนแบ่งข้าวหมักที่เท่ากัน
คำถาม - คน 2 คนรวมกันซื้อข้าวหมัก 1 ถัง เมื่อต้องแยกกันตรงสะพานข้ามแม่น้ำ ทั้งคู่ไม่มีอุปกรณ์เครื่องชั่งอื่น ๆ นอกจากถังฝาแฝดคนละใบ รู้รึเปล่า...ทั้ง 2 คนจะแบ่งข้าวให้เท่ากันได้อย่างไรคำตอบ - ลอยถังน้ำทั้ง 2 ใน ลงบนผิวน้ำ แล้วเทข้างหมักส่วนหนึ่งลงอีกถังหนึ่ง จนความสูงของทั้ง 2 ถังเท่ากัน แสดงว่าแบ่งข้าว 2 ถังได้เท่ากันแล้ว
ตกปลาได้กี่ตัว
คำถาม - ต้อมกลับมาจากการตกปลา หนุงหนิงถามต้อมว่า "ตกปลาได้กี่ตัว" ต้อมตอบว่า "ได้เยอะเลยแหละ? มี 6 ตัวไม่มีหัว, 9 ตัวไม่มีหาง, 8 ตัวมีแค่ครึ่งตัว" รู้รึเปล่า...ต้อมตกปลาได้กี่ตัวคำตอบ - ต้อมตกปลาไม่ได้สักตัว ตัวเลข 6 ไม่มีหัว คือ 0 เลข 9 ไม่มีหาง คือ 0 เลข 8 ครึ่งตัวก็คือ 0 เหมือนกัน
ข้างขึ้นข้างแรม
คำถาม - ดูข้างขึ้นข้างแรม (โดยไม่ต้องอ่านค่าปฏิทิน) ทำอย่างไรดีคำตอบ - ถ้ารู้ว่าทิศตะวันออกอยู่ทางไหน ไม่ยากเลย เพียงแค่แหงนดูดวงจันทร์ หากส่วนที่เป็นด้านมืด หันไปทางทิศตะวันออก แสดงว่าเป็นข้างขึ้น แต่ถ้าส่วนของด้านมืด หันไปทางทิศตะวันตก แสดงว่าเป็นข้างแรม
ดินสอหัก
คำถาม - เราสามารถมองเห็นดินสอหัก โดยที่ไม่ต้องหักดินสอจริง ๆ ได้หรือไม่ตอบ - ได้ เพียงเติมน้ำเกลือเข้มข้นลงไปในแก้วครึ่งแก้ว จากนั้นใช้ช้อนค่อยๆ ตักน้ำเปล่าเติมลงไป เพื่อไม่ให้น้ำเปล่ากับน้ำเกลือผสมกัน เมื่อน้ำเต็มแก้ว ให้หย่อนดินสอลงไปจนสุดก้นแก้ว แล้ววางให้ชิดขอบแก้ว เมื่อมองทางด้านข้าง เราจะเห็นภาพดินสอหักเป็น 3 ท่อน ที่เป็นเช่นนี้เกิดจากปรากฏการณ์การหักเหของแสงนั่นเอง การสะท้อนภาพในตัวกลางที่มีความหนาแน่นไม่เท่ากันจะทำให้เห็นภาพที่แตกต่างกัน
เขียนอย่างไรก็เขียนไม่ได้
คำถาม - ทำไมเราไม่มีทางเขียนหนังสือโดยที่หมุนขาเป็นวงกลมไปพร้อม ๆ กันได้ตอบ - เพราะการเคลื่อนไหวของขาจะถ่ายทอดมายังมือที่เขียน เนื่องจากการหมุนขาและการเขียนจะต้องใช้สมาธิอย่างสูง จึงไม่สามารถทำทั้งสองอย่างพร้อมกันได้ สิ่งที่ทำได้คือ การเขียนรูปวงกลมที่ลากเส้นไปทิศทางเดียวกับขาที่หมุนเท่านั้น แล้วเมื่อเราเปลี่ยนทิศทางการหมุน วงกลมที่วาดอยู่จะเปลี่ยนข้างไปด้วย
รูปเส้นเลือด
คำถาม -อยากเห็นเส้นเลือดมากมายที่อยู่บนเรตินาของลูกตา ทำไงดีตอบ - ปิดตาข้างซ้ายในห้องมือ มองตรงไปข้างหน้า ถือไฟฉายไว้ที่ขมับด้านขวา ค่อย ๆ เลื่อนมาที่หน้าผาก แล้วเลื่อนกลับไปที่ขมับขวาเช่นเดิม สักพักหนึ่งจะมองเห็นเส้นเลือดคล้ายกิ่งก้านของต้นไม้ปรากฏอยู่เบื้องหน้า เนื่องจากแสงทางด้านข้างเงาของเส้นเลือดจะทอดลงไปยังเส้นประสาทตาที่อยู่ด้านล่าง ทำให้เห็นภาพเส้นเลือดได้
ตาเรืองแสง
คำถาม - ทำไมเวลากลางคืน ดวงตาของแมว สุนัขและสัตว์กลางคืนอื่น ๆ จึงเรืองแสงตอบ - เพราะในดวงตาของสัตว์เหล่านั้นมีเนื้อเยื่อชั้นพิเศษ ประกอบด้วยเกล็ดคริสตัลเล็ก ๆ อยู่หลังเรตินา เมื่อแสงไฟมากระทบจะทำหน้าที่เหมือนกระจกสะท้อนแสง ทำให้ตาเรืองแสงขึ้น
แยกพริกไทยป่นออกจากเกลือป่น
คำถาม - รู้ไหม เราแยกพริกไทยป่นที่ผสมอยู่กับเกลือปนออกมาได้อย่างไรตอบ - ถูช้อนพลาสติกด้วยผ้าขนสัตว์ จะทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตขึ้น สามารถดูดได้ทั้งพริกไทยและเกลือ จากนั้นถือช้อนไว้เหนือกองพริกไทยกับเกลือประมาณ 1 นิ้ว ช้อนจะดูดพริกไทยลอยขึ้นมาก่อน ก็เพราะว่ามีน้ำหนักเบากว่าเกลือ

บทบาทของครูที่มีอิทธิพลต่อการจัดการเรียนรู้

1. ภาษามาจากการที่เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง เช่น พ่อ แม่ ครู โรงเรียน
2. ปัจจัยที่ส่งเสริม เช่น
- สิ่งแวดล้อมที่ดีช่วยเอื้อให้เกิดการเรียนรู้
- ตัวเด็กเอง คือด้านพัฒนาการที่สมบูรณ์(ตัวเด็กเองเรียนรู้ทักษะภาษาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา บ้านครอบครัวเป็นตัวสะท้อนให้เกิดพัฒนาการทางภาษา)
3. ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ
- ครูต้องมีบุคคลิกภาพที่อบอุ่น ครูต้องเตรียมสภาพแวดล้อม ด้านสื่ออุปกรณ์ กิจกรรม ครูต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมให้เด็กเกิดความไว้วางใจ
4. กิจกรรมในโรงเรียน เช่น เล่นตามมุม กิจกรรมศิลปะ เล่านิทาน เป็นต้น

รูปภาพกิจกรรมคะเพื่อนๆ

รูปถ่ายที่พุทธมลฑล

จำได้มั๊ยค่ะ